13 อาหารยอดแย่..ที่มีแต่สารเคมีและควรหลีกเลี่ยงตลอดชีวิต

นักโภชนาการส่วนใหญ่จะบอกกับคุณว่าพวกเขาคือผู้ที่คอยแนะนำพฤติกรรมการกินที่เหมาะสม รวมถึงจัดตารางการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้กับผู้คนมากมาย และพวกคุณรู้ไหมว่ามีอาหารบางชนิดซึ่งถูกนับว่าเป็นอาหารยอดแย่ที่ควรหลีกเลี่ยงตลอดชีวิต และนี่คือรายการอาหารที่นักโภชนาการจะไม่มีวันรับประทานมันเข้าไปอย่างเด็ดขาด..ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

หากใครที่ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ได้ ก็ขอให้ลดประมาณการรับประทานให้น้อยลงเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาวค่ะ




1. อาหารแปรรูป/อาหารกระป๋อง


พวกเขาจะหลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของสารเพิ่มความข้นหนืด น้ำตาล และวัตถุกันเสียหรือสารกันบูดทั้งหลายแหล่ รวมถึงอาหารกระป๋องที่เรียงรายอยู่บนชั้นวางในซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วย นักโภชนาการขอแนะนำให้เรารับประทานอาหารที่ปรุงสดใหม่ แทนที่จะเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโซเดียมและสารกันบูด

2. ครีมเทียม





เนื่องจากครีมเทียมไร้ซึ่งสารอาหารที่มีประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น แถมยังเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจอีกด้วย

3. อาหาร GMOs

ถ้าเป็นการโต้วาทีเรื่องอาหารดัดแปลงพันธุกรรมหรือ GMO เหล่านักโภชนาการทั้งหลายขออยู่ข้างฝ่ายค้านจะดีกว่า และอยากให้พวกเราทุกคนหันมาเลือกรับประทานอาหารออร์แกนิคที่ทั้งสะอาด ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพมากมาย และยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

4. เปปเปอร์โรนี



การโรยหน้าพิซซ่าด้วยผักที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางสารอาหาร ย่อมดีกว่าเนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการแปรรูปมากเกินไป

5. น้ำอัดลมสูตรน้ำตาลน้อย

ผู้ที่นิยมดื่มน้ำอัดลมสูตรไดเอทมีแนวโน้มที่จะชอบรสหวาน แต่ต้องเป็นความหวานที่ไม่เพิ่มน้ำตาลหรือแคลอรี่ให้กับร่างกายด้วยนะ แต่น่าเสียดายที่รสหวานมักจะมาพร้อมกับการรับประทานน้ำตาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขอแนะนำให้คุณค่อยๆ ลด ละ เลิกน้ำอัดลมสูตรไดเอทและเปลี่ยนไปลองชาเขียวเย็นแทน หรือคลับโซดาบีบมะนาวก็ได้ เพราะน้ำอัดลมสูตรไดเอทคือสารเคมีล้วนๆ และไม่ได้ช่วยทำให้คุณหลีกเลี่ยงแคลอรี่ได้ในระยะยาว

6. เชอร์รี่เชื่อม

ทั้งน้ำตาล สารเคมี และสีสังเคราะห์จะทำลายสุขภาพของคุณเป็นอย่างมาก

7. ซีเรียลกับนมไร้ไขมัน

ซีเรียลส่วนใหญ่จะอุดมไปด้วยน้ำตาลและขาดโปรตีนกับเส้นใยอาหาร ขณะที่นมไร้ไขมันคือสิ่งที่นักโภชนาการจะเลี่ยงเท่าที่จะเลี่ยงได้ เพราะนอกจากรสชาติไม่ได้อร่อยเท่ากับนมปกติแล้ว แต่อันที่จริงไขมันคือส่วนประกอบที่สำคัญมากในอาหารแต่ละมื้อ การดื่มนมคุณภาพดีซึ่งเต็มไปด้วยไขมันจะให้ทั้งความอร่อยและคุณค่าทางสารอาหารอย่างครบถ้วนอีกด้วย





8. น้ำอัดลม

น้ำอัดลมก็คือลูกอมในรูปของเหลวดีๆนี่เอง ไร้ซึ่งคุณค่าทางสารอาหารอย่างแน่นอน

9. ขนมกรุบกรอบรสผลไม้

ขนมขบเคี้ยวกรุบกรอบส่วนใหญ่จะมีปริมาณแคลอรี่ที่สูงมากและเต็มไปด้วยสารเคมี แต่ถ้าเป็นขนมรสผลไม้ล่ะ? คราวนี้ยิ่งแล้วกันไปใหญ่ เพราะมันมีแต่เกลือ สารเคมี และสีสังเคราะห์ทั้งนั้น ทิ้งลงถังขยะไปเถอะ!

10. สารเพิ่มความหวาน

คงไม่มีนักโภชนาการคนไหนกล้าเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับการบริโภคอาหารที่มีแต่สารแปลกปลอมและไร้ซึ่งคุณค่าทางสารอาหาร ที่สำคัญร่างกายของทุกคนก็ไม่ได้ชอบมันหรอกนะ มันทำลายสุขภาพเรามากๆเลย

11. เบคอน

เบคอนมีไขมันอิ่มตัวและโซเดียมสูง บอกแค่นี้ก็ไม่น่าลองแล้วล่ะ

12. ฮอทด็อก





เนื้อสัตว์แปรรูปกับสารกันบูด แถมไม่ค่อยมีโปรตีนอีกด้วย ไม่เอาล่ะขอบคุณ!

13. เครื่องดื่มที่ให้รสหวาน

ยกตัวอย่างเช่น ชา กาแฟ และน้ำผลไม้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่ให้คุณค่าทางสารอาหารต่ำเมื่อเทียบกับการทานผลไม้สดๆ แคลอรี่ก็สูงปรี๊ด ทั้งหวาน ทั้งมัน แถมไม่ได้ช่วยให้อิ่มท้องสักเท่าไหร่ เพราะยังไงคุณก็ยังต้องทานอาหารมื้อเที่ยงอยู่ดี 

ที่มา issue247.com

รุนแรง!!! สุรินทร์ไข้เลือดออกระบาดหนัก ป่วยพุ่งกว่า 2,000 ตายแล้ว 2

ไข้เลือดออกระบาดหนักที่ จ.สุรินทร์ พบผู้ป่วยแล้วกว่า 2,254 ราย เสียชีวิต 2 ราย ส่งผลให้สาธารณสุขจังหวัดต้องเร่งพ่นหมอกควันกำจัดยุงลาย






วานนี้ (16 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโกเมนทร์   ทิวทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ไข้เลือดออกในจังหวัดว่า พบผู้ป่วยไข้เลือดออกแล้ว 2,254  ราย เสียชีวิตแล้ว 2 ราย กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือ กลุ่มนักเรียนอายุ 10-14 ปี จำนวน 1,447 ราย อำเภอที่มีอัตราป่วยประชากรแสนคนสูงสุด คือ อำเภอศรีณรงค์ , อำเภอกาบเชิง , อำเภอบัวเชด , จึงได้สั่งการไปยังสาธารณสุขทั้ง 17 อำเภอ ของสุรินทร์ เร่งออกพ่นหมอกควันกำจัดยุงลายอย่างเร่งด่วน  เพื่อกำจัดและตัดวงจรชีวิตของยุงลายหลังฝนเริ่มตกชุกมากขึ้น





     
ทั้งนี้ หากพบว่าบุตรหลาน มีไข้ขึ้นสูงประมาณ 2-7 วัน ปวดศรีษะ ปวดเมื่อยตามตัว อาจมีจุดแดงๆ ตามลำตัว แขน ขา บางรายมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ในรายรุนแรง จะกระสับกระส่าย มือเท้าเย็นเนื่องจากภาวะช็อค ซึ่งถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้เสียชีวิตได้  และ ควรหลีกเลี่ยงการซื้อยากินเอง แต่ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที





ภาพจาก : 77jowo.com





แจกสูตร ผิวหน้าขาวใส ไร้สิว ด้วย 4 สูตรมะเขือเทศ (Tomato)







อยากมีผิวหน้าขาวใส เปล่งปลั่ง ไร้สิว ทำได้ไม่ยากเลยสักนิด เพราะประโยชน์จาก มะเขือเทศ (Tomato) ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวหนังสดชื่น ป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ ทำให้หน้าขาวขึ้น





นอกจากนี้น้ำคั้นจากผลมะเขือเทศมีวิตามินหลายชนิด มีฤิทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสมานแผล ช่วยล้างผิวหน้าให้สะอาดนุ่มนวล ปรับสภาพผิวแห้งกร้าน และคืนสภาพผิวให้ผิวหน้าชุ่มชื้น การเตรียมมะเขือเทศ สามารถใช้มะเขือเทศสุกได้ทั้งลูกโดยไม่ต้องปอกเปลือกควรล้างให้สะอาด






วิธีการใช้

- วิธีที่ 1 ฝานมะเขือเทศวางบนใบหน้าสักครู่ จะช่วยให้ใบหน้าสะอาดและดูเต่งตึงเปล่งปลั่งขึ้น

- วิธีที่ 2 มะเขือเทศปั่นผสมกับข้าวโอ๊ตหรือรำข้าว พอกหน้าทิ้งไว้ 15-20 นาทีแล้วล้างออก



- วิธีที่ 3 เนื้อมะเขือเทศสุกบดละเอียด ลูบไล้ปลายหางตาจะลดการเหี่ยวย่น ป้องกันการเกิดริ้วรอยตีนกา ต้องทำทุกวันจึงจะเห็นผล

- วิธีที่ 4 มะเขือเทศสุกบดละเอียด ผสมน้ำนมสดเป็น beauty mask พอกหน้าทิ้งไว้ 15-20 นาที ควรพอกเป็นประจำจะทำให้ผู้ที่มีหน้าดำเป็นจุดๆ ค่อยๆ ขาวขึ้น ช่วยทำให้ผิวหน้าสะอาดขึ้น







Photo By http://www.arabtip.com/

บทความจาก...เพจมูลนิธิหมอชาวบ้าน

ดูไว้นะ! ราศีใด ในต้นปีหน้า 2559 จะเป็นปีชงหนัก และต้องแก้แบบนี้ ก่อนจะสายเกินไป







ปีชง 2559 มาแล้ว ใครจะรวย ใครจะถังแตก !!

ปีชงสำหรับปีพุทธศักราช 2559 ( วอก ) ได้แก่ปีนักษัตร ขาล

หรือ คนที่เกิดปี พ.ศ. 2469, 2481, 2493, 2505, 2517, 2529, 2541, 2553

ปีชงร่วมได้แก่ปีนักษัตร วอก, มะเส็ง, กุน

หรือ คนที่เกิดปี พ.ศ. 2460, 2463, 2466, 2472, 2475, 2478, 2484, 2487, 2490, 2496, 2499, 2502, 2508, 2511, 2514, 2520, 2523, 2526, 2532, 2535, 2538, 2544, 2547, 2550, 2556

=========================

ปีชง 2559 จะเริ่มเมื่อใด ????

หลายคนคงรู้จัก “ปีชง” กันแล้ว ว่าเป็นความเชื่อทางโหราศาสตร์ของจีน โดยเกี่ยวข้องกับองค์เทพไท้ส่วย หรือ “เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา” ซึ่งปีที่ได้รับผลไม่ดี จะมีอยู่ 4 แบบคือ





ปีชง เป็นปีที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด หรือชงโดยตรง
ปีคัก คือปีที่เป็นปีนักษัตรเดียวกับปีนั้นๆ จะเป้นปีชงร่วม
ปีเฮ้ง คือปีที่ได้รับผลกระทบในเรื่องเคราะห์กรรม
ปีผั่ว คือปีที่ได้รับผลกระทบในเรื่องสุขภาพ



โดยปีชงตรงๆ จะได้รับผลกระทบมากที่สุด ส่วนปีคัก ปีเฮ้ง ปีผั่วซึ่งเรามักเรียกว่า ปีชงร่วม จะได้รับผลกระทบน้อยกว่า

สำหรับคำถามว่า ปีชงของแต่ละปีจะเริ่มเมื่อไรนั้น หมอลักษณ์ เลขานิเทศน์ได้อธิบายเรื่องการเปลี่ยนปีไว้ว่า

1. ปี พ.ศ.เปลี่ยนหลังเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธันวาคมรวมถึงปีค.ศ. การเปลี่ยบนปีแบบสากลนี้ ทางโหราศาสตร์ไม่ค่อยนับว่ามีการเปลี่ยนอะไร

2. การเปลี่ยนปีนักษัตรแแบบจีน (ชวด ฉลู ขาล…….กุน) จะเปลี่ยนตอนตรุษจีนราวปลายมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ไม่แน่นอน

3. การเปลี่ยนปีนักษัตรกำหนดขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปีอย่างปี เป้นการคิดแบบไทย ต้องเทียบจากปฏิทินร้อยปี สำหรับปีแบบนี้ไม่มีหลักชง ดวงดีดวงร้ายอะไรทั้งนั้นคนไทยไม่เอาหลักปี (ชวด ฉลู ขาล…..กุน) มาดูดวง

4. การเปลี่ยนปีที่คนไทยกำหนดตามประเพณี คือช่วงวันมหาสงกรานต์ของทุกๆ ปี กำหนดวันที่พระอาทิตย์ยกย้ายหรือย่างจากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ ในทางโหราศาสตร์มีเกี่ยวข้องกับการสร้างบุญการทำบุญร่วมกับครอบครัว ให้บรรพบุรุษบรรพสตรี และเทวดา

 ดังนั้นถ้าเทียบการเปลี่ยนปีนักษัตรแแบบจีน ในปี 2559 วันตรุษจีนจะตรงกับวันที่ 8 กุมภาพันธ์ จึงสามารถบอกได้ว่าปีชชง 2559 จะเริ่มต้นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์

แนะนำแก้ชงปี 2559

1. ตามความเชื่อของคนจีน การไหว้เทพเจ้าไท้ส่วย จะช่วยบรรเทาเคราะห์กรรมได้ สามารถไหว้ได้ที่วัดจีนทั่วไป เช่น วัดเล่งเน่ยยี่ (หรือวัดมังกรกมลาวาส) เป็นต้น โดยวัดเล่งเน่ยยี่ปัจจุบันก็มีสองสาขาแล้ว จึงไม่ต้องไปแออัดที่วัดเดียว





ระยะเวลาท่านอาจจะไปไหว้ใกล้ๆ วันตรุษจีนในปี 2559 หรืออาจจะ ไปหลังจากวันตรุษจีนแล้วก็ได้

2. การทำบุญช่วยชีวิตสัตว์ต่างๆ เช่นการไถ่ชีวิตโค กระบือ ปล่อยนกปล่อยปลา การบริจาคโลหิต บริจาคเงินช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อน ก็ช่วยได้ค่ะ

3. การทำบุญกับคนตาย ได้แก่ ทำบุญโลงศพ ทำบุญผ้าดิบห่อศพ หรือช่วยจัดการงานศพให้กับผู้ยากไร้ เป็นธุระติดต่อกับมูลนิธิให้ช่วยเหลืองานศพ การทำงานกับมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต

4. การทำบุญกับผู้ป่วยหนัก การช่วยเหลือผู้ป่วยหนักไม่จำเป็นต้องใช้เงินเสมอไป อาจจะเป็นธุระติดต่อมูลนิธิ องค์กร หรือบุคคลมีชื่อเสียงให้ช่วยเหลือ เป็นสื่อกลางต่างๆ ก็ได้ค่ะ

5. การไหว้พระตามวัดต่างๆ ช่วยเสริมสิริมงคลให้ชีวิต ทำบุญกับผู้ทรงศีล ทำสังฆทาน

6. ช่วยเหลืองานการกุศลแบบออกแรงไม่ต้องออกเงินก็ได้ค่ะ

7. เผยแพร่ธรรมะ คำสอนดีๆ แนะนำให้ความรู้ข้อคิดให้คนกลับตัวเป็นคนดี





8. ถือศีลห้า ศีลแปด ตามที่เราสามารถปฏิบัติได้

9. งดเว้นการสร้างความแตกแยก งดเว้นการทำให้คนหมู่มากเดือดร้อน งดเว้นการทำให้สัตว์ตายตกอย่างทุกข์ทรมาน

ลดน้ำหนัก 40 กิโลใน 3 เดือน เป็นสูตรที่ง่ายไม่ต้องอดอาหาร(ไม่ต้องใช้ยา)







ต้องขอเกรินก่อนะคะ ว่าดิชั้นลดไป 30 กิโลใน 2 เดือน และลดอีก 10 กิโลใน 1 เดือนสุดท้ายคะ (ปล ดิชั้นเป็นเกย์นะคะ อิอิ ตอนนั้นหนัก 108 กิโลกรัม สูง 180 cm คะ)

สำหรับสูตรก็คือ ให้ซื้อแตงโมตุนไว้เยอะๆๆคะ ซื้อก่อนเข้าทำงานหลายๆถุงเลยคะ แล้วก็เอาไปแช่ช่องแช่แข็ง(เป็นไอติมอร่อยๆๆคะ)หรือตุ็เย็นไว้คะ

มื้อเช้า





ก็ให้ทานแตงโมเย็นๆกับน้ำเปล่าเยอะๆๆนี้แหละคะ หิวเมือไรก็คว้าแตงโมเข้าปากคะ ที่ให้ทานแตงโมเพราะว่า แตงโมมีรสหวาน เพราะมีน้ำตาลโมเลกุลเล็กคะ ร่างกายสามารถดูดซึมได้เร็ว แล้วในการทำงานนั้น สมองต้องการน้ำตาลด้วยคะ (สมองคนเราต้องการน้ำตาลวันละ 120g นะคะ ฉะนั้นการอด crab เลยจะแย่ต่อสมองมากๆๆ รวมถึงในสมองก็มีน้ำอยู่เป็นส่วนประกอบหลัก ฉะนั้นทานน้ำเยอะๆๆคะ แถมการทานน้ำเย็น จะช่วงเพิ่มแมตตาบอริซึม หรือ การเผาพลาญ เพราะร่างกายต้องพยายามรักษาอุณหภูมิของร่างกายไว้ที่ 37 องศานะคะ ก็จะนำพวกไขมันส่วนเกินออกมาเผา ให้ร่างกายเกิดความร้อน เพื่อคงอุณหภูมิ นะคะ แถมกินน้ำเยอะ ต้องเดินไปฉี่บ่อย เวลาเดิน ก็ได้ออกกำลังกายด้วยนะคะ 5555 ห้ามอั้นปัสสาวะ นะคะ จะเป็นกระเพราะปัสสาวะ อักเสบได้คะ อันตรายมากๆๆๆ เดินบ่อยหน่อยก็ถือว่าออกกำลังกายนะคะ อิอิอิ)



ถ้าเบื่อแตงโม ให้ทาน ชมพู่ แทนได้คะ แต่ห้ามทานผลไม้เนื้อแน่นๆเป็นแป้ง พวก มะม่วง ฝรั่ง เพราะมันจะให้พลังงานสูงกว่าคะ เพราะสูตรของดิชั้น คือจะให้กินแตงโมทั้งวันคะ หิวเมื่อไร ก็แตงโมเมื่อนั้น

จากที่หามา เค้าบอกว่า แตงโม 100g ให้พลังงานแค่ 8 Kcal เองคะ ฉะนั้น กินแตงโม 1 กิโล เพิ่งได้พลังงานแค่ 80 Kcal เอง ไม่อ้วนแน่นอนคะ (ผุ้หญิงใช้พลังงานวันละประมาณ 1500 Kcal) ฉะนั้น ถ้าจะลดความอ้วน ก็ไม่ควรจะกินเกิน 1000 kcal นะคะ น้ำหนักที่หายไป 1 kg เท่ากับ 7700 Kcal นะคะ อันนี้หามาจาก net คะ

ถ้าคนน้ำหนักเยอะก็จะยิ่ง ใช้พลังงานเยอะขึ้นต่อวันคะ ก็จะทำให้ ช่วงแรกๆๆ ลดลงเร็วมาก แต่หลังๆๆจะลดช้าลง ก็ไม่ต้องเครียดว่าทำไมหลังๆๆไม่ลดนะคะ มันต้องใช้เวลานิดนึง

มื้อกลางวัน





มื้อกลางวัน ให้ทาน เกาเหลา ไม่ใส่หอมเจียว นะคะ หรือถ้ามีร้านส้มตำ ก็ ส้มตำเลยคะ ไก่ย่างเลยคะ หรือสเต็กปลา ก็ได้ แต่อย่าทาน คาร์โบไฮเดรตคะ สูตรนี้จะรับ คาร์โบไฮเดรต จาก แตงโม เท่านั้นนะคะ ห้ามทานของทอดด้วยคะ เพราะน้ำมันนี้มันอันตรายมากกกกกกกกกกกกก แล้วก็ห้ามทานหนังสัตว์

บ่ายๆ

แอบหิวตอนบ่ายกันใช่ไหมคะ เดินไปตู้เย้นเลยค้า แตงโม เจ้าเก่า อิอิอิ

เย็น

ตอนเย็นนี้กลับมาบ้านให้กินไข่ต้มคะ2-3ฟอง กินไข่แดงได้คะ ไม่ต้องเอาออกนะคะ เพราะไขมันในไข่แดงเป็นไขมันธรรมชาติ ร่างกายจะนำไปใช้คะ เช่นการสร้างวิตามิน D คะ แถมเคยอ่านเจอว่า ในไข่แดงมีสารลดไขมันในหลอดเลือดด้วยคะ


ไข่ต้ม 1 ฟองให้พลังงาน 75 Kcal โดยประมาณคะ
แต่ถ้าไข่ดาว 1 ฟอง ก็ 150 Kcal
ถ้าไข่เจียว 1 ฟองก็ 250 Kcal คะ

เห็นไหมคะ น้ำมันนี้มันน่ากลัวมากคะ
จะทานไข่ต้มกับสลัดก็ได้นะคะ แต่น้ำสลัดขอแบบญี่ปุ่นนะคะ อิอิอิ แล้วก็ไม่ใส่ ขนมปังอบนะคะ

ถ้าตลอดทั้งวันนี้มีตอนไหนหิวๆๆ ก็รีบกินแตงโมนะคะ ก่อนจะเผลอไปกินอย่างอื่น แล้วมานึกได้ที่หลัง

ห้ามกินกาแฟคะ เพราะให้พลังงานสูงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากพวก นม น้ำตาล นมค้นหวาน ครีม ไรพวกนนี้อะคะ เห็นเค้าว่า เท่ากับข้าว 2 มื้อเลยคะ





**** เครื่องดื่มตลอดการลดน้ำหนักต้องเป็นน้ำเปล่า หรือ pepsi max นะคะ ****

ควรมีช่วง promotion ให้ตัวเองด้วยคะ เช่น ลดครบ 10 กิโลกรัม รับไปเลย บูลเบอรี่ชีสเค้ก 1 ชิ้น อะไรแบบนี้ ไม่งั้น ตายแน่คะ มันต้องมีพักกันบ้าง เช่น 7 วัน พัก 1 มื้อ กินอะไรก็ได้ตามใจเรา อะไรแบบนี้อะคะ สู้ๆๆนะคะ อิอิอิ

ที่มา จากคุณ : sukritudom สมาชิกเว็บไซต์ pantip.com

น่ากลัวมาก ถ้าเจอหอยนางรม แบบนี้อย่ากินเป็นอันขาด ทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง

 





อาหารปิ้งย่างเป็นอาหารที่หลายคนชอบทาน หนึ่งในนั้น ก็คือหอยนางรม เป็นซีฟูดชั้นยอด แต่ว่าความลับของหอยนางรมคุณรู้บ้างไหม ถ้าคุณรู้คุณจะไม่กล้ากินมันอีกต่อไป เนื้อกับเปลือกหอยแยกออกจากกัน หรือเรียกอีกหนึ่งก็คือ "สินค้าประกอบใหม่" ปกติเวลาทานหอยนางรม จะทานกับกระเทียมหรือเครื่องเทศอื่นๆ คนที่ไม่คุ้นเคยจะแยกแยะความสดไม่ออก

เวลาดมจะได้แต่กลิ่นกระเทียม





คุณต้องให้ความสนใจเพราะว่าหอยนางรมที่คุณท่านกำลังจะรับประทานนั้นอาจจะไม่ใช้ของสด!

ตามการสำรวจ วิธีการทำของพ่อค้าทั่วไปคือ เอาเปลือกหอยกลับมา แล้วนำเนื้อหอยนางรมแช่แข็งหรือหอยที่ตายแล้วมาใส่เปลือกหอยอันเดิมแล้วนำไปย่าง หรือก็คือ "สินค้าประกอบใหม่" เพราะหอยนางรมต้องรอให้หายแข็งจากการแช่แข็ง ระยะเวลานี้อาจจะมีสิ่งสกปรกปนเปื้อน หลังจากที่รับประทานอาหาร อาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดอาการท้องร่วง อาเจียนและอาการอื่น ๆ

การหลอก:เนื้อและเปลือกแยกออกจากกันทำให้ง่ายต่อการล้าง

ถ้าคุณกินเนื้อหอยนางรม หอยนางรมสามารถคีบออกจากเปลือกโดยตะเกียบอย่างง่ายดาย แล้วถ้าคุณถามทางร้าน ร้านก็จะบอกกับคุณว่า ทำให้ง่ายต่อการชำระล้างและการใส่กระเทียมเครื่องเทศ





1435827947529012

ต้องระวัง นี่คือการหลอกลวง ที่จริงแล้ว การล้างหอยนางรม ไม่จำเป็นต้องแยกเนื้อหอยจากเปลือกหอย ใช้น้ำฉีดก็เพียงพอแล้ว คนที่คุ้นเคยกับหอยนางรมจะรู้ดีว่า แงะหอยนางรมแบบที่ใช้น้ำแรงดันสูงฉีด หอยก็ยากที่จะหลุดออกจากเปลือก

คำเตือน: หอยนางรมที่ตายแล้วเป็นแหล่งเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย

หลายร้านยอมรับ เมื่อหอยนางรมถูกแงะเปลือกออก มันก็จะตายทันที คุณภาพจะเสื่อมลงในไม่กี่ชั่วโมง ถ้าแช่แข็งก็เก็บได้แค่วันสองวันเท่านั้น

ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการให้คำแนะนำว่าเนื้อหอยนางรมที่ตายแล้ว หากวางอยู่ในอุณหภูมิห้องสองชั่วโมง เชื้อ E. coli จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่รับประทานอาหาร อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วย




แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าสดไม่สด?

ง่ายมาก เวลารับประทานหอยนางรม หอยนางรมสามารถคีบออกจากเปลือกโดยตะเกียบอย่างง่ายดาย ส่วนใหญ่แล้วคือของแช่แข็ง หรือสินค้าประกอบใหม่ แต่ถ้าใช้ตะเกียบคีบแล้วบางส่วนยังติดอยู่บนเปลือก นั้นก็คือหอยนางรมสด





ดังนั้นเวลาออกไปกินหอยนางรม ต้องระมัดระวัง จะได้ไม่โดนหลอกนะ!!



ขอบคุณสำหรับเนื้อหาจาก : liekr.com

จบแล้ว !!!! ไอ้เกม วันชัย ผู้ต้องหาคดี ฆ่าข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 ปี บนขบวนรถไฟ







ปิดคดี สะเทือนใจทั่วประเทศ  สำหรับผู้ต้องหา  เกม วันชัย ก่อคดีที่คนไทยทั้งประเทศรับไม่ได้ เมื่อกล่งปีที่แล้ว (2557)   เกม วันชัย ฆ่าข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 ปี ในขบวนรถไฟ  โดยศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาลงโทษประหารชีวิต 





image

ล่าสุด ปรากฎว่า  เกม วันชัย ไม่ได้ยื่นฎีกา เพื่อขอต่อสู้คดีต่อศาลฎีกา จึงทำให้คดีนี้ สิ้นสุดลง โดยคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งให้ประหารชีวิต  เนื่องจากเป็นพฤติการณ์ร้ายแรง ไม่มีเหตุบรราเทาโทษ





ซึ่ง คดีนี้ เป็นที่พอใจ ขอครอบครัวของเด็กหญิงวัย 13 ปี  เป็นอย่างมาก

image

สำหรับ ผู้ต้องหาอีกราย นายณัฐกรณ์ ถูกศาลสั่งจำคุก 4 ปี และยังคงต้องโทษอยู่ที่เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ทั้งนี้  ครอบครัวผู้เสียชีวิต ได้รับค่าชดเชยค่าเสียชีวิตของเด็กหญิงวัย 13 จาก ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นจำนวนเงินประมาณ 8.5 ล้านบาท





ที่มา : ข่าวไทย