อยากมีผิวหน้าขาวใส เปล่งปลั่ง ไร้สิว ทำได้ไม่ยากเลยสักนิด เพราะประโยชน์จาก มะเขือเทศ (Tomato) ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวหนังสดชื่น ป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ ทำให้หน้าขาวขึ้น
นอกจากนี้น้ำคั้นจากผลมะเขือเทศมีวิตามินหลายชนิด มีฤิทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสมานแผล ช่วยล้างผิวหน้าให้สะอาดนุ่มนวล ปรับสภาพผิวแห้งกร้าน และคืนสภาพผิวให้ผิวหน้าชุ่มชื้น การเตรียมมะเขือเทศ สามารถใช้มะเขือเทศสุกได้ทั้งลูกโดยไม่ต้องปอกเปลือกควรล้างให้สะอาด
วิธีการใช้
- วิธีที่ 1 ฝานมะเขือเทศวางบนใบหน้าสักครู่ จะช่วยให้ใบหน้าสะอาดและดูเต่งตึงเปล่งปลั่งขึ้น
- วิธีที่ 2 มะเขือเทศปั่นผสมกับข้าวโอ๊ตหรือรำข้าว พอกหน้าทิ้งไว้ 15-20 นาทีแล้วล้างออก
- วิธีที่ 3 เนื้อมะเขือเทศสุกบดละเอียด ลูบไล้ปลายหางตาจะลดการเหี่ยวย่น ป้องกันการเกิดริ้วรอยตีนกา ต้องทำทุกวันจึงจะเห็นผล
- วิธีที่ 4 มะเขือเทศสุกบดละเอียด ผสมน้ำนมสดเป็น beauty mask พอกหน้าทิ้งไว้ 15-20 นาที ควรพอกเป็นประจำจะทำให้ผู้ที่มีหน้าดำเป็นจุดๆ ค่อยๆ ขาวขึ้น ช่วยทำให้ผิวหน้าสะอาดขึ้น
Photo By http://www.arabtip.com/
บทความจาก...เพจมูลนิธิหมอชาวบ้าน
ต้องขอเกรินก่อนะคะ ว่าดิชั้นลดไป 30 กิโลใน 2 เดือน และลดอีก 10 กิโลใน 1 เดือนสุดท้ายคะ (ปล ดิชั้นเป็นเกย์นะคะ อิอิ ตอนนั้นหนัก 108 กิโลกรัม สูง 180 cm คะ)
สำหรับสูตรก็คือ ให้ซื้อแตงโมตุนไว้เยอะๆๆคะ ซื้อก่อนเข้าทำงานหลายๆถุงเลยคะ แล้วก็เอาไปแช่ช่องแช่แข็ง(เป็นไอติมอร่อยๆๆคะ)หรือตุ็เย็นไว้คะ
มื้อเช้า
ก็ให้ทานแตงโมเย็นๆกับน้ำเปล่าเยอะๆๆนี้แหละคะ หิวเมือไรก็คว้าแตงโมเข้าปากคะ ที่ให้ทานแตงโมเพราะว่า แตงโมมีรสหวาน เพราะมีน้ำตาลโมเลกุลเล็กคะ ร่างกายสามารถดูดซึมได้เร็ว แล้วในการทำงานนั้น สมองต้องการน้ำตาลด้วยคะ (สมองคนเราต้องการน้ำตาลวันละ 120g นะคะ ฉะนั้นการอด crab เลยจะแย่ต่อสมองมากๆๆ รวมถึงในสมองก็มีน้ำอยู่เป็นส่วนประกอบหลัก ฉะนั้นทานน้ำเยอะๆๆคะ แถมการทานน้ำเย็น จะช่วงเพิ่มแมตตาบอริซึม หรือ การเผาพลาญ เพราะร่างกายต้องพยายามรักษาอุณหภูมิของร่างกายไว้ที่ 37 องศานะคะ ก็จะนำพวกไขมันส่วนเกินออกมาเผา ให้ร่างกายเกิดความร้อน เพื่อคงอุณหภูมิ นะคะ แถมกินน้ำเยอะ ต้องเดินไปฉี่บ่อย เวลาเดิน ก็ได้ออกกำลังกายด้วยนะคะ 5555 ห้ามอั้นปัสสาวะ นะคะ จะเป็นกระเพราะปัสสาวะ อักเสบได้คะ อันตรายมากๆๆๆ เดินบ่อยหน่อยก็ถือว่าออกกำลังกายนะคะ อิอิอิ)
ถ้าเบื่อแตงโม ให้ทาน ชมพู่ แทนได้คะ แต่ห้ามทานผลไม้เนื้อแน่นๆเป็นแป้ง พวก มะม่วง ฝรั่ง เพราะมันจะให้พลังงานสูงกว่าคะ เพราะสูตรของดิชั้น คือจะให้กินแตงโมทั้งวันคะ หิวเมื่อไร ก็แตงโมเมื่อนั้น
จากที่หามา เค้าบอกว่า แตงโม 100g ให้พลังงานแค่ 8 Kcal เองคะ ฉะนั้น กินแตงโม 1 กิโล เพิ่งได้พลังงานแค่ 80 Kcal เอง ไม่อ้วนแน่นอนคะ (ผุ้หญิงใช้พลังงานวันละประมาณ 1500 Kcal) ฉะนั้น ถ้าจะลดความอ้วน ก็ไม่ควรจะกินเกิน 1000 kcal นะคะ น้ำหนักที่หายไป 1 kg เท่ากับ 7700 Kcal นะคะ อันนี้หามาจาก net คะ
ถ้าคนน้ำหนักเยอะก็จะยิ่ง ใช้พลังงานเยอะขึ้นต่อวันคะ ก็จะทำให้ ช่วงแรกๆๆ ลดลงเร็วมาก แต่หลังๆๆจะลดช้าลง ก็ไม่ต้องเครียดว่าทำไมหลังๆๆไม่ลดนะคะ มันต้องใช้เวลานิดนึง
มื้อกลางวัน
มื้อกลางวัน ให้ทาน เกาเหลา ไม่ใส่หอมเจียว นะคะ หรือถ้ามีร้านส้มตำ ก็ ส้มตำเลยคะ ไก่ย่างเลยคะ หรือสเต็กปลา ก็ได้ แต่อย่าทาน คาร์โบไฮเดรตคะ สูตรนี้จะรับ คาร์โบไฮเดรต จาก แตงโม เท่านั้นนะคะ ห้ามทานของทอดด้วยคะ เพราะน้ำมันนี้มันอันตรายมากกกกกกกกกกกกก แล้วก็ห้ามทานหนังสัตว์
บ่ายๆ
แอบหิวตอนบ่ายกันใช่ไหมคะ เดินไปตู้เย้นเลยค้า แตงโม เจ้าเก่า อิอิอิ
เย็น
ตอนเย็นนี้กลับมาบ้านให้กินไข่ต้มคะ2-3ฟอง กินไข่แดงได้คะ ไม่ต้องเอาออกนะคะ เพราะไขมันในไข่แดงเป็นไขมันธรรมชาติ ร่างกายจะนำไปใช้คะ เช่นการสร้างวิตามิน D คะ แถมเคยอ่านเจอว่า ในไข่แดงมีสารลดไขมันในหลอดเลือดด้วยคะ
ไข่ต้ม 1 ฟองให้พลังงาน 75 Kcal โดยประมาณคะ
แต่ถ้าไข่ดาว 1 ฟอง ก็ 150 Kcal
ถ้าไข่เจียว 1 ฟองก็ 250 Kcal คะ
เห็นไหมคะ น้ำมันนี้มันน่ากลัวมากคะ
จะทานไข่ต้มกับสลัดก็ได้นะคะ แต่น้ำสลัดขอแบบญี่ปุ่นนะคะ อิอิอิ แล้วก็ไม่ใส่ ขนมปังอบนะคะ
ถ้าตลอดทั้งวันนี้มีตอนไหนหิวๆๆ ก็รีบกินแตงโมนะคะ ก่อนจะเผลอไปกินอย่างอื่น แล้วมานึกได้ที่หลัง
ห้ามกินกาแฟคะ เพราะให้พลังงานสูงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากพวก นม น้ำตาล นมค้นหวาน ครีม ไรพวกนนี้อะคะ เห็นเค้าว่า เท่ากับข้าว 2 มื้อเลยคะ
**** เครื่องดื่มตลอดการลดน้ำหนักต้องเป็นน้ำเปล่า หรือ pepsi max นะคะ ****
ควรมีช่วง promotion ให้ตัวเองด้วยคะ เช่น ลดครบ 10 กิโลกรัม รับไปเลย บูลเบอรี่ชีสเค้ก 1 ชิ้น อะไรแบบนี้ ไม่งั้น ตายแน่คะ มันต้องมีพักกันบ้าง เช่น 7 วัน พัก 1 มื้อ กินอะไรก็ได้ตามใจเรา อะไรแบบนี้อะคะ สู้ๆๆนะคะ อิอิอิ
ที่มา จากคุณ : sukritudom สมาชิกเว็บไซต์ pantip.com
ไอเดียสำหรับคนงบน้อย! รีวิว สร้างบ้านโครงเหล็ก หลังเล็ก ด้วยงบไม่เกิน 2 แสน
ในทางสมุนไพรพอช่วยได้
โดยให้เอา ต้นและใบของ “สาบเสือ” ไม่รวมราก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตากแห้ง นำไปคั่วไฟอ่อนๆ จนให้มีกลิ่นหอมโชยขึ้นจมูก ผึ่งให้เย็น ชงกับน้ำร้อนดื่มเป็นน้ำชา 3 เวลา เช้า กลางวัน และเย็น ครั้งละ 1 แก้ว ชงดื่มทุกวัน จะช่วยให้อาการของโรคไตขั้นแรกค่อยๆดีขึ้นหรืออาจหายได้
อธิษฐานหน้าพระพุทธรูป หรือสวดก่อนนอนก็ได้
(นะโม 3 จบ) “ สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
อุกาสะ ขะมามิ ภันเต “
หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน บิดา-มารดา
ครูบาอาจารย์พระพุทธ พระธรรม
พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กายวาจา ใจ ก็ดี
ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย
หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมาขออนุญาตมีคู่
มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป
ขอถอนคำอธิษฐานคำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต
ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน
ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูกที่ชอบที่ควร
ขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัวตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้องจงเจริญด้วย
อายุ วรรณะ สุขะ พละลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ
อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก ทางธรรม
ตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า
ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท
ความอาฆาตและคำสาปแช่งในทุกชาติ ทุกภพ
ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร
ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลก ทางธรรม เทอญ …
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“คนเราเกิดมาหลายภพชาติ ต่างมีเจ้ากรรมนายเวรของตนต่างกัน
การสวดขอขมาเพื่อลดและปลดหนี้กรรมให้เบาบางน้อยลง "
เราต้องการสิ่งใด มีอุดมคติมุ่งมั่นในสิ่งใด ขอให้ระลึกถึงสิ่งนั้นและอธิษฐานจิตก่อนนอน เมื่อเรานอนหลับไป
จิตใต้สำนึกจะซึมซับเอาความปรารถนานั้นไว้ และพิจารณาหาทางให้เราประสบความสำเร็จ
เมื่อเราตื่นขึ้นตอนเช้า ขอให้เราคิดว่าเป็นชาติใหม่ของเรา
ขอให้คิดไปในทางที่ดี สร้างจินตภาพในเรื่องความสุขความสำเร็จ
เราจะได้มีพลังจิตที่เข้มแข็งไปในทางบวกและทำหน้าที่ที่มาถึงให้ดีที่สุด
จิตที่เต็มไปด้วยธรรมะ เป็นจิตที่มีความสร้างสรรค์มากเพราะไม่มีอะไรบกพร่อง
พร้อมที่จะช่วยคนอื่นได้ โดยไม่หวังอะไรตอบแทน เขาจะรักหรือไม่รัก เรื่องของเขา แต่เราจะให้
ก่อนนอนทุกคืน เราควรตั้งใจให้อภัยทุกสิ่งทุกอย่างและแก่ทุกคน ทำเสมือนหนึ่งว่า เราจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก
ความตั้งใจอย่างนี้ ทำให้ใจของเราสงบและเราจะหลับไปอย่างเป็นสุข ตื่นขึ้นพร้อมด้วยความสดชื่นแจ่มใส
ขอจงท่องจำไว้ว่า เมื่อใดใจของเราผูกเวร เมื่อนั้นมองไปทางใดก็พบแต่ศัตรู
แต่เมื่อใดใจของเรามีเมตตา มองไปทางใดก็เจอแต่มิตรไมตรี
ถ้าท่านเห็นว่าเป็นบทความนี้มีเนื้อหาดี
ก็กรุณาร่วมด้วยช่วยกันส่งต่อความดีด้วยเผยแพร่พระธรรมเป็นธรรมทานต่อๆกันไปด้วยครับ
ขอบคุณเนื้อหาจาก : blog.eduzones.com
สมุนไพรกินรักษาโรคเก๊าท์ เพื่อล้างกรดยูริก อาหารที่ควรงด อาหารที่มีพิวรีนสูง ได้แก่ เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ปีก ปลาดุก ปลาซาร์ดีน ปลาไส้ตัน กุ้ง ไข่ปลา น้ำต้มกระดูก น้ำสกัดเนื้อ ซุปก้อน กะปิ ชะอม กระถิน สะเดสมุนไพรกินรักษาโรคเก๊าท์ เพื่อล้างกรดยูริก อาหารที่ควรงด อาหารที่มีพิวรีนสูง ได้แก่ เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ปีก ปลาดุก ปลาซาร์ดีน ปลาไส้ตัน กุ้ง ไข่ปลา น้ำต้มกระดูก น้ำสกัดเนื้อ ซุปก้อน กะปิ ชะอม กระถิน สะเดา
สมุนไพรสูตร 1 : ใบรางจืด 5 ใบ + ใบเตย 5 ใบ ต้มน้ำ 2 ลิตร ดื่มทุกวัน จะช่วยลดการเป็นเก๊าท์ – รูมาตอยด์ (สูตรนี้ลดหินปูนได้ดีที่สุด)

thaiselect.com
สมุนไพรสูตร 2 : มะละกอดิบ 1 ลูก เอาเมล็ดออก (แต่ไม่ปลอกเปลือก) ล้างให้สะอาด หั่นเป็นทอนๆ ต้มน้ำ 3 ลิตร ดื่มทุกวันอาการปวดลดลงจนหาย

marumoil.com
สมุนไพรสูตร 3 : ยอดมะรุมสดๆ 3 ยอด ต้มน้ำ 2 ลิตร ต้มน้ำดื่มทุกวัน ลดอาการเก๊าท์ได้

สมุนไพรสูตร 4 : ใบยอ 4 ใบ + มะตูมแห้ง 1 แว่นย่างไฟให้เหลือง นำมาต้มกับน้ำ 3 ขวด เคี่ยวให้เหลือ 2 ขวด ดื่มกินต่างน้ำทุกวันจนกว่าจะหาย

ytimg.com
สมุนไพรสุตร 5 : น้ำมะกรูด ผสมน้ำผึ้งนิดเดียว แล้วเอาน้ำอุ่นเติมใส่ไม่ต้องมาก หรือน้ำเย็น ผสมแล้วนำมาดื่ม ใช้เวลาประมาณเดือนครึ่ง ดื่มทุกวันช่วยได้ครับ

tlcdn3.com
อาหารที่ช่วยลดอาการเก๊าท์
1.ใบมะรุม ลวกจิ้มน้ำพริก
2.ลูกเดือยต้มกับข้าวเจ้า แบบข้าวต้ม ทานประจำ
3.ใบรางจืด + ใบเตย ต้มน้ำดื่มประจำนะคะ
4.ใบย่านางสดวันละ 10 ใบ
ขอขอบคุณเนื้อหาจาก:facebook.com:permalink